เจาะลึกแบบประกันโรคร้ายแรง 50 โรคและแบบตลอดชีพ แตกต่างกันอย่างไร

ข้ามไปหน้าหลัก
การดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี

เจาะลึกแบบประกันโรคร้ายแรง 50 โรคและแบบตลอดชีพ แตกต่างกันอย่างไร

03/2025
ประกันโรคร้ายแรง, ประกัน 50 โรคร้ายแรง


ไม่มีใครอยากคิดถึงวันที่ต้องเผชิญกับโรคร้ายแรง โรคร้ายแรงสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน โดยไม่เลือกอายุหรือไลฟ์สไตล์ หลายคนอาจมองว่า หากดูแลสุขภาพดี ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ก็เพียงพอแล้วที่จะหลีกเลี่ยงโรคร้ายแรง แต่ในความเป็นจริง ปัจจัยเสี่ยงการเกิดโรคบางอย่างอยู่เหนือการควบคุม ไม่ว่าจะเป็น มลภาวะทางอากาศ ความเครียด พันธุกรรม หรือแม้แต่การเปลี่ยนแปลงของร่างกายเมื่ออายุมากขึ้น

เมื่อโรคร้ายแรงเกิดขึ้น ค่าใช้จ่ายในการรักษามักสูงกว่าที่คาดคิด ค่ารักษามะเร็งบางชนิดอาจเริ่มต้นที่หลักแสนบาทต่อรอบของคีโม หรือค่าผ่าตัดหัวใจอาจแตะหลักล้านบาท หากไม่มีแผนสำรองทางการเงิน ค่าใช้จ่ายเหล่านี้อาจกลายเป็นภาระหนักสำหรับทั้งตัวคุณเองและครอบครัว หลายคนอาจคิดว่าประกันสุขภาพทั่วไปสามารถช่วยรองรับค่าใช้จ่ายเหล่านี้ได้ แต่ในความเป็นจริง ประกันสุขภาพส่วนใหญ่มีข้อจำกัดด้านวงเงิน และอาจไม่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลที่ต่อเนื่อง

นี่คือเหตุผลที่ ประกันโรคร้ายแรง มีบทบาทสำคัญในการปกป้องอนาคตทางการเงิน ไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องมือช่วยจ่ายค่ารักษาพยาบาล แต่เป็น หลักประกันว่าคุณจะได้รับการดูแลที่ดีที่สุดโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย และช่วยให้ครอบครัวไม่ต้องเผชิญกับภาระการเงินที่คาดไม่ถึง

แต่เมื่อพูดถึง ประกันโรคร้ายแรง หลายคนอาจสงสัยว่า แบบไหนคุ้มค่าที่สุด และ ควรเลือกประกันโรคร้ายแรงอย่างไรให้เหมาะกับตนเอง? เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ บทความนี้จะช่วยให้เข้าใจถึงแบบ ประกันโรคร้ายแรง 50 โรค และแบบ ประกันโรคร้ายแรงตลอดชีพ พร้อมแนวทางในการเลือกแผนที่ตอบโจทย์ชีวิตของคุณมากที่สุด
 

ทำไมต้องมีประกันโรคร้ายแรง

หลายคนอาจยังไม่รู้ หรือยังมองไม่ออกว่าประกันโรคร้ายแรงนั้น มีความจำเป็นอย่างไร ถึงจะต้องวางแผนทำประกันประเภทนี้ไว้ มาดูเหตุควรมีประกันโรคร้ายแรงกัน
 

1. ค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคร้ายแรงสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้

การรักษาโรคร้ายแรง เช่น มะเร็ง โรคหัวใจ หรือโรคอื่น ๆ มีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าที่คาดคิดมาก โดยเฉพาะเมื่อค่ารักษาเหล่านี้ต้องใช้เวลาในการรักษานานและต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจทำให้เกิดภาระทางการเงินที่ยากเกินกว่าจะรับมือได้ โดยเฉพาะสำหรับครอบครัวที่ไม่เตรียมการเงินสำรองไว้ล่วงหน้า

ประกันสุขภาพทั่วไปมักครอบคลุมเฉพาะค่าใช้จ่ายพื้นฐาน เช่น ค่ายา ค่าห้องพัก หรือค่าผ่าตัดบางประเภท แต่ในการรักษาโรคร้ายแรง ประกันสุขภาพทั่วไปอาจไม่สามารถครอบคลุมได้ทั้งหมด สวัสดิการจากนายจ้างเองก็มีข้อจำกัด เช่น วงเงินคุ้มครองที่อาจไม่เพียงพอและจะหมดไปเมื่อคุณออกจากงานหรือเกษียณ ขณะที่ประกันสังคม แม้จะให้ความคุ้มครองบางประเภท แต่ก็มีข้อจำกัดในเรื่องของสถานพยาบาลและสิทธิ์ในการรักษา

การมีประกันโรคร้ายแรงตลอดชีพ CI Extra Plus จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับครอบครัวที่ต้องการความมั่นคงทางการเงินเมื่อเผชิญกับโรคร้ายแรง เนื่องจากช่วยให้คุณสามารถมีเงินสำรองสำหรับค่ารักษาพยาบาลโดยไม่กระทบต่อคุณภาพชีวิต และให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมภาระต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทันทีเมื่อได้รับการวินิจฉัยโรคร้ายแรง ทำให้การดูแลรักษาผู้ป่วยเป็นไปอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
 

2. ลดความเสี่ยงกระทบเงินออมและรายได้ของครอบครัว

โรคร้ายแรงไม่เพียงแค่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ แต่ยังสามารถกลายเป็นภาระทางการเงินที่ใหญ่หลวงสำหรับครอบครัว เมื่อมีการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็ง โรคหัวใจ หรือภาวะไตวายเรื้อรัง ค่าใช้จ่ายในการรักษาอาจสูงมากจนเกินกว่าที่หลายครอบครัวจะรับมือได้ หากไม่มีการวางแผนทางการเงินที่ดีไว้ล่วงหน้า

การมีประกันโรคร้ายแรงจะช่วยลดความเสี่ยงทางการเงินในยามที่ครอบครัวต้องการความช่วยเหลือและสร้างความมั่นคงให้กับทั้งสุขภาพและการเงินในระยะยาว
 

โรคร้ายแรงในเด็ก ความเสี่ยงที่พ่อแม่ไม่ควรมองข้าม

การเป็นโรคร้ายแรงหลายคนอาจนึกถึงผู้สูงอายุหรือคนวัยทำงานเป็นหลัก แต่ เด็กก็มีความเสี่ยงต่อโรคร้ายแรงไม่ต่างกัน โรคที่พบบ่อยในเด็ก เช่น โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด และโรคกล้ามเนื้อเสื่อม เป็นโรคที่ต้องได้รับการรักษาต่อเนื่องและมีค่ารักษาพยาบาลสูง หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น ไม่เพียงแต่เด็กเองที่ต้องทุกข์ทนกับการรักษา อีกมุมหนึ่งของคนเป็นพ่อแม่ คือ ค่ารักษาของลูกอาจเป็นภาระทางการเงินของพ่อแม่ที่อาจส่งผลกระทบต่อฐานะทางการเงินของครอบครัว

ประกันโรคร้ายแรงตลอดชีพ CI Extra Plus เป็นทางออกที่ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่มีเงินสำรองสำหรับค่ารักษาโดยไม่กระทบต่อคุณภาพชีวิตของ
ครอบครัว
 

ความแตกต่างระหว่างประกันโรคร้ายแรง 50 โรค และแบบโรคร้ายแรงตลอดชีพ

ประกันโรคร้ายแรง หลายคนอาจเข้าใจว่าแผนประกันทุกประเภทให้ความคุ้มครองที่คล้ายกัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว ประกันโรคร้ายแรง 50 โรค และ ประกันโรคร้ายแรงตลอดชีพ มีเงื่อนไข ความคุ้มครอง และข้อดีที่แตกต่างกัน ซึ่งอาจส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกแผนที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์และความต้องการทางการเงินของคุณ การเลือกแผนประกันที่เหมาะสมไม่ใช่แค่การพิจารณาค่าเบี้ยประกันเท่านั้น แต่ต้องคำนึงถึงความคุ้มครอง วงเงินคุ้มครอง และความเสี่ยงด้านสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
 

ประกันโรคร้ายแรง 50 โรค

เป็นแผนประกันที่ออกแบบมาเพื่อคุ้มครองโรคร้ายแรงที่พบได้บ่อยและมีค่าใช้จ่ายสูง เช่น มะเร็ง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคเกี่ยวกับระบบประสาท เป็นต้น โดยเมื่อผู้เอาประกันได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคร้ายแรงตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ จะได้รับเงินก้อนทันที เพื่อนำไปใช้ในการรักษาหรือค่าใช้จ่ายที่จำเป็น แผนนี้ให้ความคุ้มครองแบบปีต่อปี และเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองในช่วงเวลาที่มีภาระทางการเงินสูง เช่น วัยทำงานที่มีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับครอบครัวหรือหนี้สิน ในขณะที่ 
 

ประกันโรคร้ายแรงตลอดชีพ

เป็นแผนที่ให้ความคุ้มครองต่อเนื่องไปจนถึงอายุที่กำหนด ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว และต้องการลดความกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคร้ายแรงในช่วงวัยเกษียณ ข้อดีของแผนนี้ คือ แม้ว่าจะมีอายุที่มากขึ้นก็ยังได้รับการคุ้มครองอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ต้องกังวลเรื่องอายุขัยของกรมธรรม์ ทำให้เป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับการวางแผนสุขภาพและการเงินในอนาคต

สำหรับใครที่ยังลังเลว่าควรเลือกแบบไหน คำตอบอยู่ที่เป้าหมายทางการเงินของคุณ หากต้องการความคุ้มครองในช่วงเวลาที่มีความเสี่ยงมากที่สุดและมีภาระทางการเงินสูง ประกันโรคร้ายแรง 50 โรค อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม แต่หากคุณต้องการแผนระยะยาวที่ให้ความคุ้มครองแบบไม่มีวันหมดอายุ และมั่นใจว่าจะมีเงินสำรองสำหรับค่ารักษาพยาบาลในทุกช่วงวัย ประกันโรคร้ายแรงตลอดชีพ อาจเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์กว่า

การมี ประกันโรคร้ายแรง ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของการเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต แต่เป็นการป้องกันความเสี่ยงทางการเงินและช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงการรักษาที่ดีที่สุดได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย การตัดสินใจเลือกประกันที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณมีหลักประกันที่มั่นคงสำหรับตัวเองและครอบครัว
 

ใครควรทำประกันโรคร้ายแรงบ้าง?

ไม่มีใครสามารถคาดเดาอนาคตได้ โรคร้ายแรงอาจเกิดขึ้นโดยไม่เลือกวัย การมี ประกันโรคร้ายแรง เป็นการป้องกันความเสี่ยงด้านสุขภาพและการเงินที่ช่วยให้คุณและครอบครัวได้รับความคุ้มครองที่
ครอบคลุมที่สุด

ไม่ว่าคุณจะเป็นเด็ก วัยทำงาน เจ้าของธุรกิจ หรือผู้สูงอายุ ประกันโรคร้ายแรงสามารถเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างความมั่นคงในอนาคต
ชับบ์ ไลฟ์ ประกันชีวิต ได้สรุป กลุ่มคนที่ควรพิจารณาการทำประกันโรคร้ายแรง และเหตุผลที่แต่ละกลุ่มควรเริ่มวางแผนตั้งแต่วันนี้

1. เด็กและวัยรุ่น

หลายคนเข้าใจผิดว่าโรคร้ายแรงเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ แต่ในความเป็นจริง เด็กก็เผชิญกับโรคร้ายแรงได้เช่นกัน เช่น มะเร็งเม็ดเลือดขาว ซึ่งเป็นมะเร็งที่พบมากที่สุดในเด็ก, โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด ที่ต้องได้รับการผ่าตัดตั้งแต่อายุยังน้อย และ โรคกล้ามเนื้อเสื่อม ซึ่งอาจทำให้เกิดความพิการถาวรได้

ค่ารักษาพยาบาลของโรคร้ายแรงในเด็กมักสูงกว่าที่หลายครอบครัวคาดคิด เช่น การปลูกถ่ายไขกระดูกอาจมีค่าใช้จ่ายหลักล้านบาทต่อครั้ง หรือการรักษาโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดที่ต้องมีการผ่าตัดและติดตามอาการตลอดชีวิต พ่อแม่ที่พึ่งพาเพียง ประกันสุขภาพทั่วไป หรือสวัสดิการภาครัฐ อาจพบว่าแผนคุ้มครองที่มีอยู่ไม่สามารถครอบคลุมค่ารักษาทั้งหมดได้ การเลือกทำ ประกันโรคร้ายแรงตลอดชีพ CI Extra Plus จาก ชับบ์ ไลฟ์ เป็นอีกทางเลือกสำคัญที่ช่วยให้เด็กสามารถเข้าถึงการรักษาที่ดีที่สุดโดยไม่เป็นภาระทางการเงินของครอบครัว
 

2. คนวัยทำงานที่มีภาระทางการเงิน

วัยทำงานมาพร้อมกับภาระทางการเงินที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งค่าผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ค่าเล่าเรียนบุตร และค่าใช้จ่ายในการดูแลพ่อแม่ หากเกิดเหตุไม่คาดคิด เช่น การเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรง รายได้ที่เคยมั่นคงอาจหยุดลงทันที แต่ภาระค่าใช้จ่ายเหล่านี้ยังคงอยู่ 

การมี ประกันโรคร้ายแรง จึงเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญที่ช่วยให้คุณมีเงินสำรองสำหรับใช้จ่ายในช่วงพักรักษาตัว ลดความกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย ทำให้สามารถโฟกัสกับการฟื้นฟูสุขภาพได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลว่าค่าใช้จ่ายที่ยังต้องรับผิดชอบจะกลายเป็นภาระของครอบครัว
 

3. ผู้สูงอายุที่ต้องการวางแผนล่วงหน้า

เมื่ออายุมากขึ้น ความเสี่ยงในการเกิดโรคร้ายแรงอาจเพิ่มสูงขึ้น ค่าใช้จ่ายในการรักษาในช่วงวัยเกษียณก็สูงขึ้นตามไปด้วย การมีประกันที่ครอบคลุมช่วยให้มั่นใจได้ว่า ไม่ต้องพึ่งพาลูกหลานในการดูแลค่าใช้จ่าย

ผู้สูงอายุที่ไม่มีประกันโรคร้ายแรง อาจต้องใช้เงินออมทั้งหมดไปกับค่ารักษาพยาบาล หรืออาจต้องพึ่งพาการเงินของลูกหลาน ระบบสวัสดิการภาครัฐหรือประกันสังคมอาจไม่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด โดยเฉพาะหากต้องการการรักษาที่ดีขึ้นในโรงพยาบาลเอกชน ประกันโรคร้ายแรงช่วยให้สามารถเข้ารับการรักษาที่ดีที่สุดโดยไม่ต้องกังวลเรื่องภาระค่าใช้จ่าย

4. ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคร้ายแรง

โรคร้ายแรงหลายชนิด เช่น มะเร็ง และโรคหัวใจ สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรม ทำให้ผู้ที่มีประวัติครอบครัวป่วยเป็นโรคเหล่านี้มีความเสี่ยงมากขึ้น แม้ว่าจะดูแลสุขภาพดีแค่ไหน ก็ยังไม่สามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่แฝงอยู่ได้

สถิติที่ควรรู้ งานวิจัยทางการแพทย์พบว่า หากมีสมาชิกในครอบครัวเคยเป็นโรคร้ายแรง ความเสี่ยงในการเกิดโรคอาจเพิ่มขึ้นถึง 2-3 เท่า นอกจากนี้ ปัญหาสุขภาพที่พบบ่อย อย่างความดันโลหิตสูงหรือโรคเบาหวาน ยังเป็นอีกปัจจัยที่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายแรงได้

ผู้ที่มีพ่อหรือแม่เคยเป็นมะเร็ง อาจมีโอกาสสูงขึ้นในการเป็นมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นต้น การมีประกันโรคร้ายแรงเป็นการเตรียมตัวที่รอบคอบ แม้จะไม่มีใครอยากป่วย แต่หากเกิดขึ้นจริง จะได้รับการดูแลที่เหมาะสมโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย
 

5. เจ้าของธุรกิจ ฟรีแลนซ์ ผู้ไม่มีสวัสดิการจากบริษัท

คนที่ทำงานอิสระ หรือเป็นเจ้าของกิจการ ไม่มีประกันกลุ่มจากนายจ้าง และต้องรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดเอง หากเกิดโรคร้ายแรง อาจกระทบกับรายได้โดยตรง

ฟรีแลนซ์ที่ไม่มีรายได้ประจำ หากต้องเข้ารับการรักษานานหลายเดือน ย่อมไม่มีรายได้เข้ามาเลย แต่ยังมีค่ารักษาพยาบาลที่ต้องจ่าย แม้บางคนอาจมีเงินออมสำหรับเหตุฉุกเฉิน แต่โรคร้ายแรงมักมีค่าใช้จ่ายสูงจนเงินออมอาจหมดไปในเวลาไม่นาน

การมีประกันโรคร้ายแรงจึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการป้องกันความเสี่ยง ไม่ใช่แค่ช่วยเรื่องค่ารักษาพยาบาล แต่ยังช่วยให้สามารถใช้ชีวิตต่อไปได้โดยไม่ต้องพะวงเรื่องรายได้ที่สูญเสียไป
 

วิธีเลือกประกันโรคร้ายแรงให้คุ้มค่า

1. เลือกความคุ้มครองที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์

การเลือกประกันโรคร้ายแรงต้องพิจารณาจากปัจจัยสำคัญ เช่น อายุ สุขภาพ และอาชีพ เป็นต้น

วัยทำงานและคนที่มีภาระครอบครัว ควรเลือกแผนประกันที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายสูง เนื่องจากต้องรับผิดชอบภาระทางการเงิน เช่น ค่าผ่อนบ้าน ค่าเลี้ยงดูครอบครัว เป็นต้น

เจ้าของธุรกิจและฟรีแลนซ์ ไม่มีสวัสดิการจากบริษัท จำเป็นต้องมีความคุ้มครองที่ครอบคลุมทั้งค่ารักษาและค่าชดเชยรายได้

ผู้สูงอายุ โรคร้ายแรงมีโอกาสเกิดมากขึ้น ควรเลือกประกันที่คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลระยะยาว

การมีประกันโรคร้ายแรงช่วยให้มั่นใจว่า ไม่ว่าช่วงวัยใด ก็สามารถเข้าถึงการรักษาที่เหมาะสมได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย
 

2. เปรียบเทียบเบี้ยประกันภัย และวงเงินชดเชย

เบี้ยประกันภัยและวงเงินคุ้มครองต้องสอดคล้องกับค่ารักษาพยาบาลในปัจจุบัน ซึ่งแนวโน้มค่ารักษาพยาบาลมีการปรับตัวสูงขึ้นทุกปี

●     ควรเลือกวงเงินคุ้มครองที่สามารถรองรับค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคร้ายแรงในระยะยาว

●     เปรียบเทียบแผนประกันจากหลายบริษัท ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าได้รับความคุ้มครองที่คุ้มค่าและผลประโยชน์สูงสุด

●     พิจารณาประกันที่มี "เงินก้อนจ่ายทันทีเมื่อวินิจฉัยว่าเป็นโรคร้ายแรง" เพื่อช่วยบรรเทาค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างการรักษา
 

3. ศึกษารายละเอียดข้อยกเว้น และเงื่อนไขการเคลม

การเลือกประกันโรคร้ายแรงที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับความต้องการในการคุ้มครองและแผนการเงิน ทั้งแบบครอบคลุม 50 โรคและแบบตลอดชีพต่างมีข้อดีที่เหมาะกับการดูแลสุขภาพ เลือกแบบประกันโรคร้ายแรงที่ตอบโจทย์มากที่สุดก่อนการตัดสินใจเลือกซื้อ


หมายเหตุ

ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียด ความคุ้มครอง และเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง
ทั้งนี้ การรับประกันภัยจะเป็นไปตามเงื่อนไขและกฎเกณฑ์ของบริษัทฯ
 

บทความ

7 โรคร้ายแรงที่คนไทยควรรู้จัก และวิธีป้องกัน
 

โรคร้ายแรงเป็นหนึ่งในปัญหาด้านสุขภาพที่สำคัญของคนไทย ไม่ว่าจะเป็นโรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน หรือโรคความดันโลหิตสูง ที่สามารถส่งผลกระทบรุนแรงต่อคุณภาพชีวิตและการใช้ชีวิตประจำวัน แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ โรคร้ายแรงส่วนใหญ่สามารถป้องกันได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการดูแลสุขภาพอย่างถูกวิธี

อยากซื้อประกันสุขภาพเริ่มต้นอย่างไรดี เลือกแบบประกันอย่างไรให้ตอบโจทย์

ในปัจจุบันที่ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง การมี ประกันสุขภาพ กลายเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดภาระทางการเงิน และเพิ่มความอุ่นใจในชีวิต หากกำลังมองหาประกันสุขภาพที่ตอบโจทย์รับมือความเสี่ยงด้านสุขภาพ แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหน บทความนี้จะช่วยแนะนำวิธีเลือกและเปรียบเทียบแผนประกันสุขภาพ

Ice Bath แช่น้ำแข็ง ผ่อนคลายร่างกาย สร้างสุขภาพที่แข็งแรง
 

เคยสงสัยไหมว่าทำไมนักกีฬาระดับโลกและเหล่าคนดังถึงนิยมแช่น้ำแข็งหลังการออกกำลังกาย? Ice Bath หรือการแช่น้ำเย็นจัดกำลังได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มคนรักสุขภาพ ไม่เพียงแค่ช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อหลังการออกกำลังกาย แต่ยังช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ลดความเครียด และกระตุ้นการเผาผลาญในร่างกายได้อย่างน่าทึ่ง

สงวนลิขสิทธิ์ @ ชับบ์ 2022 เนื้อหาในเอกสารนี้มีขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น และจะไม่ถือว่าเป็นการให้คำแนะนำใด ๆ โปรดตรวจสอบข้อกำหนด เงื่อนไข และข้อยกเว้นฉบับสมบูรณ์ของนโยบายของเราเพื่อพิจารณาความเหมาะสม ความคุ้มครองอาจได้รับการรับประกันโดยบริษัทชับบ์ หรือบริษัทในเครือข่ายอย่างน้อยหนึ่งราย สิทธิความคุ้มครองและบริการบางอย่างอาจไม่สามารถใช้ได้ในบางประเทศและบางเขตพื้นที่ ชับบ์® และประทับตราพาณิชย์ของชับบ์ Insured.SM เป็นเครื่องหมายการค้าของชับบ์ที่ได้รับการคุ้มครอง

ติดต่อเรา 

ให้ ชับบ์ ไลฟ์ ประกันชีวิต ปกป้อง ดูแลคุณ

หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อเรา เพื่อรับคําแนะนําเกี่ยวกับการปกป้อง คุ้มครองจากความเสี่ยงต่างๆ